มุมมองการสร้างหนังของท่าน หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
ก๊อบมาเต็มๆ จากเว็บพันทิพย์เลยครับผม สุดยอดมากๆ
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7681099/A7681099.htmlโดยท่านใช้นามแฝงว่า
Cinephile ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างหนังดีๆ ไว้ดังนี้
ตรงส่วนด้านล่างนี้ เป็นส่วนที่ท่านตอบความเห็นในเว็บพันทิพย์ครับผมCinephile แปลตรงๆว่าคนรักหนังครับ และสำหรับ Chinephile แล้วจะรักหนังทุกเรื่องที่ดู และจะประทับใจกับทุกเรื่องครับ เพราะผมจะคูหนังในลักษณะของคนทำหนังมากกว่าคนดูทั่วๆ ไป และหนังแต่ละเรื่องจะมีความดีความเด่นเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เพราะจะมองเห็นถึงความพยายามและความฝันที่กลั่นกรองลงไปในหนังแต่ละเรื่อง ความพยายามที่จะทำให้หนังที่กำลังสร้างอยู่นั้นเป็นที่รักที่ชอบคนคนดู ถึงแม้ว่าเมื่อทำออกมาแล้วจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนดู ผมก็เสียใจไปกับเจ้าของหนัง
หนังที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษในปี 2008 ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเรื่องอะไร เพราะแต่ละเรื่องที่ดูจะมีลักษณะพิเศาที่แตกต่างกันออกไป เช่นเรื่อง Watchmen ก็มีความซับซ้อนและความลึกใน character ของแต่ละตัวแสดง ที่น่าสนใจ หรือปืนใหญ่โจรสลัดที่มีความพยายามที่จะนำประวัติศาสตร์ที่คนส่วนใหญ่ลืมไป แล้วมาถ่ายทอดออกมาเป็นหนังให้พวกเราชม และความพยายามในการทำ Special effect ที่ค่อนข้างจะลงตัว หรือเรื่องรักแห่งสยามที่นำเรื่องราวของครอบครัวมาตีแผ่ได้อย่างน่าประทับใจ หรือิจะเป็นดรีมทีมที่สามารถนำเอาเด็กอนุบาลมาแสดงได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งผมจะชื่นชอบพอๆกับหนังอย่าง Kingdom หรือ Body of lie ซึ่งผมก้ชื่นชอบพอๆกับหนังของคุณเจ้ย หรือหนังอย่างเรื่อง Wonderful Town ซึ่งถ่ายทอดชีวิตออกมาตรงๆ ดิบๆ โดยไม่แต่งแต้มสีสันให้ดูดีไปกว่าชีวิตจริง ไม่มี CG หรือใช้เทคนิกการถ่ายทำหรือตัดต่อที่จะทำลายความรู้สึกที่ผู้กำกับพยายามจะ สื่อ หรือหนังของพจน์อานนท์ ที่พยายาม Entertain คนดูตามสไตล์ของคุณพจน์อานนท์ (ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากหนังของหม่ำที่พยายาม Entertain คนดูตามสไตล์คนดูขของหม่ำ)
แต่ก็นั่นแหละนะครับ เป็น Cinephile ก็คือเป็นคนรักหนัง และคนรักหนังก็มักจะมองข้ามข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆเช่น CG ไม่เนียน หรือเนื้อเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเท่าไรนัก เพราะผมจะชื่นชอบในสิ่งที่ดีที่อยู่ในหนังเรื่องนั้นมากกว่า( Andre Bazin ผู้เป็นปรมาจารณ์ด้านวิจารณ์เคยเขียนเอาไว้ว่าหนังทุกเรื่องจะมีทั้งส่วนดี และทั้งส่วนไม่ดี ขึ้นกับคนที่เสฟหนังเรื่องนั้นจะมองเห็นส่วนไหน และคนวิจารณ์ก็จะเลือกได้ว่าจะวิจารณ์ในส่วนที่ดีหรือส่วนที่เลว ขึ้นอยู่กับคนที่จะมีมุมมองที่จะมองเห็นส่วนไหน Andre Bazin จะนำเอาแต่ส่วนดีของหนังแต่ละเรื่องมาวิจารณ์ ทำให้เขาเป็นปรมาจารณ์ในการเขียนวิจารณ์ เพราะคนกล้าเท่านั้นที่สามารถเขียนชมหนังได้โดยไม่กลัวคนว่าดูหนังไม่เป็น ครับ)
แหมเขียนมาเสียยาวแต่ยังไม่บอกเลยว่าชื่นชอบหนังเรื่องไหนเป็นพิเศษ
ที่เขียนถึง Knowing บ่อยๆ ก็เพราะผมคิดว่าเรื่องนั้นสนุกดี ถึงเขียนว่าหนังสนุกดีครับ แต่ไม่เคยเขียนว่าหนังดีหรือหนังเทพ เพราะดีหรือเทพนั้นขึ้นอยู่กับคนดูครับ หนังเรื่อง Knowing เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้ดีมีที่มาที่ไปและสามารถดูสนุกได้ในระดับที่ไม่จำเป็นต้องคิดมากมาย
ไม่ จำเป็นต้องคิดว่าทำไมมนุษย์ต่างดาว(หรือเปล่าก็ไม่รู้) จะสื่อสารด้วยตัวเลข แต่เมื่อ Nasa ส่งยานให้ออกไปนอกสุริยะจักรวาลก็มีบันทึกด้วยตัวเลข เพราะถ้าวันหนึ่งจะมีมนุษย์ต่างดาวพบยานนั้น เขาก็จะเข้าใจเราเพราะตัวเลขบางตัวเช่น Pi จะเป็นตัวเลขที่ตายตัวที่ใครๆ จะเป็นมนุษย์จากดาวดวงไหน ก็จะรู้ว่ามันคือ 3.1459.... เพราะฉนั้น การติดต่อระหว่างมนุษย์ต่างดาวก็น่าจะใช้ตัวเลขในการติดต่อ แทนที่จะใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนหรือภาษาไทย เพราะตัวเลขเป็นภาษาสากลที่ทุกคนเข้าใจ
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมมนุษย์ต่าง ดาวถึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อันนี้ก็เป็น Theory ทางเลขที่ระบุว่าอะไรที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว (ซ้ำแล้วซ้ำอีก) ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ อย่างที่นักศึกษาถามพระเอก ซึ่งพระเอกก็บอกว่ามันมีสองแนวความคิด คือ random อะไรที่เกิดจะเกิดเพราะความบังเอิญ แต่อีกแนวความคิดคิออะไร ที่เกิดมันเกิดมาก่อนแล้วซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (Shit happen) เพียงแค่นี้ผมก็สนุกกับมันแล้ว เพราะผู้สร้างใช้ความคิดที่นำมาใส่ในหนังทำให้ดูสนุกตื่นเต้นได้
และ ในทางของหนังผมก็นับถือว่าผู้กำกับเขาปูเอาไว้และใช้มันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เช่นเมื่อเด็ก(แม่ของนางเอก) ไม่มีเวลาพอที่จะเขียนบอกพิกัดว่าตำแหน่งไหนเป็นตำแหน่ง ที่จะปลอดภัย ตัวเด็กถึงใช้เล็บขูดที่ประตู ซึ่งมาเก็บเมื่อลูกของพระเอกใช้เล็บขูดทำให้พระเอกนึกขึ้นมาได้ว่าได้ยินครู เล่าให้ฟังว่าเด็กแอบไปอยู่ในตู้เก็บของแล้วพยายามใช้เล็บขูดบอกพิกัด (จะใช้วิธีอื่นก็คงจะได้ แต่คงจะไม่ทำให้ครูจดจำหลังจาก 50 ปีต่อมา)
แต่ ก็นั่นแหละครับ หนังทุกเรื่องมีข้อโต้แย้งได้ แต่ผมก็คงไม่โต้แย้งด้วย เพราะผมไม่ใช่นักวิจารณ์แต่เป็นแค่ Cinephile หรือคนรักหนัง ดูหนังแล้วสนุกก็อยากบอกต่อๆ กัน เพราะชื่อ Cinephile ไม่มีสังกัดจึงไม่เป็นหน้าม้า (ไม่ผิดที่จะเป็นหน้าม้า เพราะถือเป็น PR อย่างหนึ่ง แต่ผิดที่อวยหนังเรื่องหนึ่งแล้วถล่มหนังอีกเรื่องที่ฉายพร้อมกัน ก็อย่างผมว่านั่นแหละครับ หนังทุกเรื่องมีส่วนดีและส่วนไม่ดี จะอวยเรื่องหนึ่งก็พูดถึงแต่ส่วนดีของหนังเรื่องนั้น แต่จะถล่มหนังอีกเรื่องก็เอาข้อเสียของหนังที่อยากทำลายมาถล่ม)